วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2555

10 อันดับรถญี่ปุ่นยอดนิยมตลอดกาล






อันดับ 10 Toyota Corolla (1966) เป็นรถยนต์คุณภาพดี ที่มองภายนอกอาจจะไม่สวยเซ็กซี่โดดเด่นสะดุดตาเท่าไรนัก แต่เป็นรถที่ทำความเร็วได้ดี สหรัฐอเมริกานำเข้าไปจำหน่ายในปี 1968 สองปีถัดมาก็กลายเป็นรถที่มียอดการส่งออกสูงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของประเทศ และระหว่างปี 1974 – 1977 ก็เป็นรถยนต์ที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในโลกถึง 3 ปีซ้อน



อันดับ 9 Honda Civic (1973) ถึงทุกวันนี้ Honda Accord จะครองใจลูกค้าของ Honda ทั่วบ้านทั่วเมือง แต่ Honda Civic เป็นรุ่นที่มียอดจำหน่ายสูงที่สุดในปี 1976 ไม่แตกต่างกับ Austin Mini ซึ่งกลายเป็นตำนานไปในช่วงเวลาเดียวกันนั่นเอง เพราะความสบาย เชื่อถือได้ งานปราณีต และคุ้มค่า โดยตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดก็คือ Type R sedan 2008



อันดับ 8 Toyota 2000GT (1967) สำหรับคนรัก Supras และ MR2s แล้ว คงจะรู้กันดีว่า ปี 1967 – 1970 ก็ได้มีการผลิตสปอร์ตคาร์ขนานแท้รุ่นแรกของโตโยต้าขึ้นมาแล้ว นั่นก็คือ 2000GT ซึ่งผ่านการทดสอบสมรรถนะมาเป็นอย่างดี ทำความเร็วได้มาก ผลิตเพียงไม่กี่ร้อยคันเท่านั้น แล้วยังเป็นรถยนต์ของ Mr. Bond ใน James Bond ตอน You Only Live Twice ซึ่งนำแสดงโดย Sean Connery ด้วย



อันดับ 7 Subaru Impreza WRX (1992) ความเป็น Subaru เปลี่ยนไปมากมายตั้งแต่มีรุ่น WRX ขึ้นมา โดย Subaru Impreza WRX ได้แรงบันดาลใจมาจากรุ่นที่ได้รับรางวัลในการแข่งขันแรลลี่ เมื่อผลิตออกจำหน่ายก็ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และครองใจตลาดมาอย่างยาวนาน แถมยังส่งสัญญาณบอกนักขับทั้งหลายว่า รถสปอร์ตไม่จำเป็นต้องมี 2 ประตูและเครื่องยนต์ใหญ่ๆ เสมอไปก็ได้ ตัวที่ได้รับความนิยมสูงสุดของ Subaru Impreza WRX ก็เห็นจะเป็น STi 2004-2005 เพราะหน้าตาที่ดูดีและขับสนุกแบบสุดๆ


 
อันดับ 6 Mitsubishi Lancer Evolution (1992) คู่แข่งตลอดกาลของ Subaru Impreza WRX ที่ให้อารมณ์รถแรลลี่และได้ความดิบขณะขับขี่เหมือนกัน ตัวที่ได้รับความนิยมมากที่สุดจนถึงทุกวันนี้ก็น่าจะเป็น Evolution X 2008 นั่นเอง



อันดับ 5 Acura NSX (1991) ยนตรกรรมสุดหรูที่สามารถขับขี่ได้ทุกวัน ไม่มีเบื่อ ที่น่าตื่นเต้นก็คือนี่เป็นแบรนด์รถยนต์ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ยังเคยมีนิตยสารรถยนต์ตีพิมพ์ไว้ว่า Acura NSX เป็น “รถสปอร์ตที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา”  (แม้จะมีบางคนค้านก็ตาม) เป็นรถที่ต้องการการบำรุงรักษาไม่มาก และไม่ค่อยกินน้ำมัน



อันดับ 4 Masda Miata (MX-5) (1990) เป็นรถยนต์สองที่นั่งรุ่นที่หลายคนมองข้าม แต่ถ้าได้ลองมักจะติดใจ ตัวแรกที่ออกมาช่วงปี 1990 – 1997 เป็นตัวที่ได้รับความนิยมมากกว่า Miata ตัวที่ออกมาในปีหลังๆ แต่ยังไงซะ Miata ก็ให้อารมณ์ในการขับขี่ที่สนุกได้ไม่แพ้กัน



อันดับ 3 Nissan Skyline GT-R (1969, 2008) สุดยอดรถในฝันของใครหลายๆ คน เมื่อแรกผลิตออกมา หลายคนกังขาในสมรรถนะของ Nissan Skyline GT-R ซึ่งก็ผ่านการพิสูจน์และก้าวเข้าสู่เส้นทางรถสปอร์ตได้อย่างภาคภูมิ แฟนพันธุ์แท้รถรุ่นนี้อาจจะต้องใช้ความพยายามสักหน่อยเพื่อให้ได้มาเป็นเจ้าของ เพราะขายหมดอย่างรวดเร็ว และบางประเทศไม่มีการสั่งนำเข้า



อันดับ 2 Lexus LS400 (1990) เป็นอีกหนึ่งยนตรกรรมสุดหรู ปราณีตในรายละเอียด และใช้เทคโนโลยีระดับสูง เมื่อผลิตออกมาตอนแรกตลาดยังไม่ให้การยอมรับในแบรนด์เท่าไรนัก แต่ตอนหลังก็เริ่มเป็นที่นิยม เพราะความแรงของ LS ก็ฉุดไม่อยู่จริงๆ รวมถึงตัว LS 460 L ที่ฮ็อตฮิตมาจนถึงปัจจุบัน



อันดับ 1 Datsun 240Z (1970) ช่วงปี 60’s ต่อ 70’s เป็นช่วงที่รถยนต์นั่งธรรมดาต้องหลีกทางให้กับความต้องการรถสปอร์ตแต่ก็ต้องเป็นรถที่ทรงพลังด้วย ซึ่งความต้องการนี้มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าในตลาดจะมี Toyota 2000GT อยู่แล้ว แต่ก็หาได้ยากเพราะผลิตในปริมาณที่จำกัดและราคาค่อนข้างสูง ยิ่งจากัวร์และปอร์เช่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง Datsun 240Z จึงถูกผลิตออกมา ซึ่งก็ถูกอกถูกใจนักขับทั้งหลายเป็นอย่างมาก ราคาไม่สูงจนเอื้อมไม่ถึง สมรรถนะน่าประทับใจ ดีไซน์สวยชวนหลงใหล และมีมาตรฐานความปลอดภัยสูง

10 อันดับรถซุปเปอร์คาร์ที่มีการจดทะเบียนในประเทศไทยมากที่สุด



อันดับ 1 “Porsche”

Porsche 911 Sport Classicรถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติเยอรมัน ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะทางด้านรูปลักษณ์ การดีไซน์ และขุมพลัง  ทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Porsche ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 415 คัน ด้วยกัน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมคือPorsche 911 ที่ได้สร้างชื่อเสียงในวงการรถยนต์มากว่า 41 ปี ส่วนสาเหตุที่ Porsche เป็นรถซุปเปอร์คาร์อันดันดับหนึ่งของความนิยมในเมืองไทยก็คือเรื่องราคา เนื่องจากเป็นซุปเปอร์คาร์ที่มีราคาไม่แพงเกินเอื้อม

อันดับ 2 “Ferrari”

Ferrari F430 Scuderiaรถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติอิตาเลียน หรือที่คนไทยเรียกกันว่า ม้าลำพอง โดย Ferrari จะขึ้นชื่อเรื่องการออกเเบบ และผลิตรถแข่ง รวมถึงการสร้างทีมแข่งรถที่มีชื่อเสียงมายาวนานกว่า 4 ทศวรรษ  และ ทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Ferrari ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด355 คัน ด้วยกัน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมคือ Ferrari F430 Scuderia

อันดับ 3 “Lamborghini”

lamborghini aventador 700-4รถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติอิตาเลียน ถือได้ว่าเป็นรถซุปเปอร์คาร์ในฝันของใครหลายคนที่ชอบความดุดัน และเร้าใจ เเละรุ่นที่เห็นได้โดยทั่วไปส่วนมากในไทยคือ  กระทิงเปลี่ยวตัวเล็กอย่าง lamborghini gallardo และใหม่ล่าสุดสำหรับกระทิงเปลี่ยวตัวใหญ่ที่ทาง นิช คาร์ นำเข้ามาคือ lamborghini aventador 700-4 โดยเคาะราคาที่ 36 ล้านบาท   และ ทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Lamborghiniที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 157 คันด้วยกัน

อันดับ 4 “Maserati”

Maserati GranTurismo MC Stradale รถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติอิตาเลียน ที่โดดเด่นในด้านการออกแบบ และวิศวกรรมด้านยานยนต์ รุ่นยอดนิยมสำหรับคนไทย คือ Maserati GranTurismo โดยเฉพาะอย่างยิ่งรุ่น  Maserati GranTurismo MC Stradale ซึ่งเป็นรุ่นที่ทาง Maserati ภูมิใจมากที่สุดเพราะเป็นรถที่วิ่งเร็วที่สุดเท่าที่เคยผลิตมา อยู่ที่ 301 กิโลเมตร/ชั่วโมง และทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Maserati ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 91 คันด้วยกัน

อันดับ 5 “Mercedes-Benz”

Mercedes Benz SLR McLarenรถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติเยอรมัน ถือว่าเป็นรถยี่ห้อยอดนิยมของเมืองไทยเลยก็ว่าได้ เเต่ถ้านับเฉพาะรถที่เป็น รถซุปเปอร์คาร์ แล้ว Mercedes-Benz จัดอยู่ในอันดับ 5 และทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Mercedes-Benz ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 86 คัน ด้วยกัน และรุ่นยอดนิยมของคนไทยคือ SL,SLS หรือว่าจะเป็นรถที่สุดเเพงอย่าง SLR McLaren

อันดับ 6 “Bentley”

Bentley Continental GTรถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติอังกฤษ รุ่นยอดนิยมสำหรับคนไทย คือ Bentley Continental GT และทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Bentley ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 85 คัน ด้วยกัน

อันดับ 7 “Audi”

Audi R8รถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติเยอรมัน รุ่นยอดนิยมสำหรับคนไทย คือ Audi R8 และทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Audi ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 80 คัน ด้วยกัน

อันดับ 8 “Aston Martin”

Aston Martin DB9รถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติอังกฤษ รุ่นยอดนิยมสำหรับคนไทย คือ Aston Martin DB9 และทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Aston Martin ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 57 คัน ด้วยกัน

อันดับ 9 “Lotus”

lotus evoraรถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติอังกฤษ รุ่นยอดนิยมสำหรับคนไทย คือ lotus evora และทั่วประเทศมีรถซุปเปอร์คาร์ยี่ห้อ Lotus ที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 11 คัน ด้วยกัน (ทั้งนี้ไม่นับรวมกับประเภทที่เป็นรถสปอร์ตขนาดเล็ก)

อันดับ 10 “Ford”

Ford GTรถซุปเปอร์คาร์ สัญชาติอเมริกัน รุ่นยอดนิยมสำหรับคนไทย คือ Ford GT และทั่วประเทศมีรถที่จดทะเบียนไว้ทั้งหมด 5 คัน ด้วยกัน


10อันดับมอเตอร์ไซต์ที่แพงที่สุดในโลก


10. Neiman Marcus Limited Edition Fighter
ประเดิมคันแรกกันที่มอเตอร์ไซค์ซึ่งเกิดจากความร่วมมือกันของบรรดาบริษัทยานยนต์ ชื่อของมันคือ “Neiman Marcus Limited Edition Fighter” เป็น 2 ล้อสุดเท่ที่สร้างจากเหล็กทั้งคัน พร้อมกับรูปลักษณ์ที่แสนจะโดดเด่นไม่ซ้ำใคร กับค่าตัวที่อาจทำให้ใครหลายคนกระเป๋าฉีกได้สบาย เพราะแค่อันดับที่ 10 ราคาก็ปาเข้าไปที่ 110,000 เหรียญ หรือประมาณ 3,275,800 บาท แล้ว

9. Coventry Eagle Flying – 8 (1928)
สำหรับเจ้า 2 ล้อคันต่อมามีชื่อว่า Coventry Eagle Flying – 8” ผลิตโดย Royal Eagle ใครที่คิดว่าเจ้านี่หน้าตาโบราณ บอกได้เลยว่าไม่แปลก เพราะมันถูกผลิตออกจำหน่ายครั้งแรกตั้งแต่ปี 1928 หรือ 80 กว่าปีมาแล้ว แต่กระนั้นปัจจุบันคุณก็ยังสามารถพบเห็นมันโลดแล่นอยู่บนท้องถนนได้แม้จะไม่บ่อยนัก แถมประวัติศาสตร์ของเจ้า Coventry Eagle ยังถือได้ว่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้มอเตอร์ไซค์คันไหนอีกด้วย มีคนดังหลายคนที่มีมันไว้ในครอบครองเป็นไม่ว่าจะเป็น บรูซ สมิธ (Bruce Smith), สตีเวน บรอดบริดจ์ (Stephen Broadbridge), จอห์น เอลลิส (John Ellis) และ เคน ฮอดจ์สัน (Ken Hodgson) ส่วนราคาของมันอยู่ที่ประมาณ 120,000 เหรียญ หรือ 3,573,600 บาท

8. Harley-Davidson Rocker
อันดับ 8 ตกเป็นของ “Harley-Davidson Rocker” จากผู้สร้างขาใหญ่แบรนด์ดังก้องโลก ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน ที่ถูกนำมาปรับแต่งใหม่ตลอดทั้งคันโดยบริษัทปรับแต่งรถชื่อดัง House-of-Thunder ดูจากภาพแล้วแสนจะเข้ากั๊นเข้ากันกับเรือยอร์ชมูลค่า 22 ล้านเหรียญด้านหลัง ขณะที่เจ้า Rocker สีขาวนั้นติดป้ายราคาไว้ที่ 130,000 เหรียญ หรือ 3,871,400 บาท

7. Hildebrand & Wolfmüller
นี่คือมอเตอร์ไซค์เก่าเก็บของแท้เพียงหนึ่งเดียวที่ติดอยู่ในทำเนียบ 10 อันดับสองล้อที่แพงที่สุดในโลก กับอายุที่มากถึง 115 ปี มันคือสุดยอดความพิเศษหนึ่งเดียวจากHildebrand & Wolfmüller ต้นกำเนิดที่ทำให้รถ 2 ล้อที่ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ได้รับการขนานนามว่า “มอเตอร์ไซค์” (Motorcycle) เป็นครั้งแรก และแน่นอนว่าด้วยประวัติที่เลอเลิศขนาดนี้ ราคาย่อมต้องเลิศเลอไปด้วยกับมูลค่า 150,000 เหรียญ หรือ 4,467,000 บาท เห็นเก่าๆ แพงๆ อย่างนี้อย่าคิดว่าไม่มีใครสนใจ เพราะความหายากและทรงคุณค่าของมันทำให้บรรดานักสะสมรถในอเมริกายอมทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อให้ได้มันมาเป็นส่วนหนึ่งของคอลเล็กชั่นเลยทีเดียว

6.Hub-less Harley-Davidson
คว้ามาได้อีกอันดับสำหรับคัสตอมไบค์สีเขียวสดใสจากค่ายฮาร์เล่ย์ฯ ที่ Howards Killer Customs ลงมือปรับแต่งให้มีความโดดเด่นสะดุดตายิ่งขึ้น โดยเฉพาะการติดตั้งล้อแบบ Hub less หรือล้อแบบไม่มีแกน ที่ทำให้เจ้าชอปเปอร์คันนี้ดูแตกต่างจากอันดับอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด พร้อมกับราคาที่พุ่งกระฉูดไปถึง 155,000 เหรียญ หรือ 4,620,550 บาท

5. Ecosse FE Ti XX – Titanium Series
"Ecosse FE Ti XX” ไม่ได้มีดีเพียงแค่ราคาแพงแสนแพงถึง 300,000 เหรียญ หรือประมาณ 8,943,000 บาท มากกว่าอันดับ 6 ถึง 2 เท่า เท่านั้น แต่มันยังได้ชื่อว่าเป็นรถที่สวยงามที่สุดคันหนึ่งใน Titanium Series ที่ผลิตโดยบริษัทที่มีชื่อเสียงอย่าง Ecosse Motor Works อีกด้วย โดยมาพร้อมกับขุมพลังที่น่าพิศวงอย่างเครื่องยนต์อะลูมิเนียมที่ให้กำลังถึง 225 แรงม้า ซึ่งตอนนี้ทางผู้ผลิตเปิดให้ผู้สนใจสามารถสั่งจองได้แล้ว ขณะที่ประเทศจีนได้รับเกียรติให้เป็นผู้เปิดประเดิมสินค้าล็อตแรก

4.Legendary British Vintage Black
สำหรับเจ้า 2 ล้อเครื่อง “Legendary British Vintage Black” สามารถครองอันดับที่ 4 ได้เพราะความพิเศษเพียงหนึ่งเดียวและความเป็นรถโบราณในตัวของมันเอง แม้มันจะไม่ใช่รถที่มีความเร็วกมากมายแต่ก็เก่าแก่มากพอที่จะทำให้ค่าตัวของมันสูงถึง 400,000 เหรียญ หรือคิดเป็นเงิน 11,924,000 บาท ทิ้งห่างอันดับ 5 ไปไกลชนิดไม่เห็นฝุ่น

3. Gold-Plated Custom Chopper
เปล่งประกายแวววาวพราวระยับเลยทีเดียว สำหรับอันดับ 3 Gold-Plated Custom Chopper” ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในงาน International Motorcycle Show เมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ที่ให้ภาพลักษณ์ความเป็น “มอเตอร์ไซค์โชว์” มากกว่ามอเตอร์ไซค์ที่ขี่เล่นทั่วไปด้วยการชุบทองส่วนที่เป็นโลหะทั้งหมด กับสนนราคา 500,000 เหรียญ หรือราว 14,905,000 บาท แต่เชื่อเถอะว่าหากคุณเป็นเจ้าของก็คงไม่อยากเอาเจ้า “ทองติดล้อ” คันนี้ไปออกไปซิ่งเท่าไหร่หรอก เพราะถ้าหายขึ้นมาคงได้นั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่าแน่ๆ

2. Ultra-rare Porcupine
มาที่อันดับ 2 กันบ้าง กับอีกหนึ่งในบรรดามอเตอร์ไซค์ที่ “โคตรหายาก” อย่าง Ultra-rare Porcupine” สองล้อสัญชาติอังกฤษที่ทาง AJS ผลิตขึ้นตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2โดยเจ้าคันที่เห็นอยู่นี้ถูกจัดแสดงอยู่ที่ National Motorcycle Museum ในเมืองโคเวนทรี ตลอดช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา แต่ตอนนี้ทางพิพิธภัณฑ์กลับปล่อยขายแล้วด้วยค่าตัวราว 750,000 เหรียญ หรือประมาณ 22,357,500 บาท


1. Million Dollar Harley by Jack Armstrong
ในที่สุดก็มาถึงอันดับ 1 ที่ฟังแค่ชื่อก็รู้ว่าแพงแล้วกับเจ้า Million Dollar Harley” จากค่ายบิ๊กเบิ้ม ฮาร์เล่ย์-เดวิดสัน อีกเช่นเคย แถมยังสามารถคว้าตำแหน่ง “มอเตอร์ไซค์คันแรกที่มีราคาทะลุหลักล้าน” มาครองได้อีกด้วย โดยผู้ที่ออกแบบเจ้ารถ “โคตรแพง” นี้ก็คือ แจ็ค อาร์มสตรอง (Jack Armstrong) ผู้มีชื่อเสียงดังกระฉ่อนจากสไตล์งานเพ้นท์ “Cosmic Extensional”  ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว กับราคา 1 ล้านเหรียญ หรือ 29,810,000 บาท เท่านั้นเอง